XL2536

เนื่องจากแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีสภาพการมองเห็นและความรู้สึกต่อสีและความสว่างที่ต่างกัน ดังนั้นสาเหตุของอาการไม่สบายในแต่ละคนอาจแตกต่างกันมาก แม้ว่าจอภาพจะมีการตั้งค่าเหมือนกันและแสดงภาพเดียวกัน บางคนอาจรู้สึกไม่สบาย ในขณะที่บางคนอาจไม่รู้สึกไม่สบาย ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการ และเราขอแนะนำให้คุณลองปรับเพื่อบรรเทาอาการไม่สบาย:

ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของฟังก์ชัน "DyAc" หรือ "ลดเบลอ" คือเมื่อระบบของคุณสามารถรองรับอัตราการรีเฟรชเกิน 100Hz และแสดงผลมากกว่า 100 fps อย่างเสถียร หากคุณต้องการเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ เราแนะนำว่าระบบของคุณควรรองรับได้มากกว่า 100Hz และแสดงผลมากกว่า 100 fps อย่างเสถียร

DyAc จะถูกปรับให้เหมาะสมเมื่ออัตราการรีเฟรชวิดีโอจากอินพุตเกิน 100Hz

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนโซล/เกมของคุณรองรับ 100Hz ขึ้นไปและส่งออกมากกว่า 100 fps อย่างเสถียร อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นจะให้ประสิทธิภาพ DyAc ที่ดีกว่า

โหมดสีเริ่มต้นคือโหมด "FPS1" ซึ่งปรับแต่งให้เหมาะกับฉากใน CS:GO 

*ในบางพื้นที่ โหมดสีเริ่มต้นจะตั้งค่าเป็นโหมด "ECO" เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ

*สำหรับรุ่น XL-X โหมด "FPS1" จะถูกปรับแต่งให้เหมาะกับ CS2
 

หากความชอบของคุณห่างไกลจากการตั้งค่าเริ่มต้นเหล่านั้น คุณสามารถลองใช้โหมดสี “Standard' ก่อนและปรับแต่งเพิ่มเติมตามความต้องการของคุณ

เราสนับสนุนให้คุณติดต่อเราผ่านทางโซเชียลมีเดียหากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้สายหรืออะแดปเตอร์วิดีโอจากบริษัทอื่น เนื่องจากไม่ใช่ทุกชุดที่ผ่านการทดสอบและอาจมีปัญหาความเข้ากันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สเปคและคุณภาพของสายต่างกัน กรุณาติดต่อบริการออนไลน์ของเราเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

เราไม่แนะนำให้ใช้ตัวสวิทช์หรืออะแดปเตอร์ของบุคคลที่สาม เนื่องจากไม่ได้ผ่านการทดสอบทั้งหมด และอาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ โดยเฉพาะเมื่อสายที่ต่างกันมีสเปคและคุณภาพที่แตกต่างกัน โปรดติดต่อทีมบริการออนไลน์ของเราเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

นี่เป็นพฤติกรรมปกติเมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน DyAc(+)(2) ซึ่งใช้เทคโนโลยีควบคุมแสงเพื่อช่วยลดภาพเบลอที่เคลื่อนไหวของหน้าจอ หากเห็นภาพกะพริบหรือเส้นสแกนเคลื่อนไหว: เกิดจากเซนเซอร์ของกล้องและหน้าจอมีความถี่การสแกนที่แตกต่างกัน.

ทิศทางของเส้นอาจเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง โดยปกติเกี่ยวข้องกับทิศทางของกล้อง (วางกล้องในแนวตั้งหรือแนวนอน) หรือการออกแบบพฤติกรรมของเซนเซอร์กล้อง.

Profile to Go เป็นฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับ S Switch บนรุ่น XL บางรุ่นที่ช่วยให้คุณบันทึกการตั้งค่าจอแสดงผลที่คุณชื่นชอบและใช้กับจอภาพอื่นของรุ่นเดียวกันได้. 

DyAc+ พัฒนามาจากเทคโนโลยีเดียวกัน (DyAc) และผ่านการปรับแต่งพาเนล (พร้อมด้วยการตอบสนองของพาเนลที่เร็วขึ้นเล็กน้อย) ให้นักเล่นเกมมีตัวเลือกที่แตกต่างสำหรับการกระทำ เช่น ควบคุมการยิง

นั่นคือฟังก์ชัน Overdrive/Response Time Compensation (RTC) ในซีรีส์ RL/XL เทคโนโลยีนี้เป็นพื้นฐานของการใช้แรงดันไฟฟ้าเกินกับคริสตัลเหลวเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาเข้าสู่ทิศทางของพวกเขาเร็วขึ้น ปกติเราจะอ้างถึงเวลาตอบสนอง "เทาไปเทา" (G2G) บนจอภาพที่ใช้เทคโนโลยีนี้เนื่องจากโดยปกติเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วที่สุดที่มีอยู่

ในเว็บไซต์ของ ZOWIE เราไม่ได้แสดงเวลาตอบสนองของ XL2546S และ XL2546K รวมถึงทุกรุ่นในซีรีส์ XL & RL

มีเสมอการแลกเปลี่ยนระหว่างการปรับพาเนลให้เร็วยิ่งขึ้นซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพการแสดงผลไม่ดี ซีรีส์ XL ใช้ประโยชน์จากการตอบสนองที่รวดเร็วของพาเนลอย่างเต็มที่ แต่ยังพิจารณาการตั้งค่าที่เหมาะสมสำหรับประสบการณ์โดยรวม แนะนำให้คุณตรวจสอบการแบ่งปันของผู้ใช้อื่น ๆ บนเว็บไซต์ หรือทดสอบด้วยตัวเองจะดีที่สุด

ZOWIE ทุกรุ่น ไม่มีปรอท

โปรดดูรุ่นที่รองรับ Variable Refresh Rate (VRR) ด้านล่าง

ปัจจุบัน มีเพียง XL2540 และ XL2740 ที่ถูกระบุเป็นหน้าจอที่เข้ากันได้กับ G-Sync.

สำหรับรายชื่อหน้าจอที่เข้ากันได้กับ G-Sync ล่าสุด กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ NVIDIA เพื่อการอัปเดตล่าสุด

 

แต่ถ้าหน้าจอ ZOWIE ของคุณมีฟังก์ชัน Adaptive-Sync / FreeSync Premium คุณยังสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ VRR ด้วยการ์ดจอ NVIDIA ได้.

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราการรีเฟรชแปรผัน (FreeSync Premium / G-Sync Compatible / Adaptive-Sync):

หน้าจอนี้มีการติดตั้ง VESA มาตรฐานพร้อมลวดลาย 100 มม. อนุญาตให้ติดตั้งตัวแขวนผนังหรือตัวยึดแขน. กรุณาใช้สกรู M4x10 มม. และอุปกรณ์เสริมตัวแขวนผนังหากจำเป็น กรุณาตรวจสอบกับผู้จัดจำหน่ายชุดแขวนผนัง/แขนหรือตรวจสอบกับ ZOWIE RMA เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมหากจำเป็น.

จอภาพ ZOWIE ทั้งหมดรองรับ 100V~240V.

ไม่, จอมอนิเตอร์นี้ไม่มีลำโพงในตัว

กรุณาอ้างอิงจากรายชื่อรุ่นที่เข้ากันได้ด้านล่าง

ถ้าไฟ LED พาวเวอร์เปิดหรือมีเสียงบี๊บ:

โปรดตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้:

1. กดปุ่มควบคุม OSD ของหน้าจอหรือคอนโทรลเลอร์ 5 ทิศทางและตรวจสอบ
    ตัวเลือกการป้อนข้อมูลเพื่อดูว่า DisplayPort สามารถเลือกได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถเลือก
    DisplayPort ได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสาย DisplayPort เชื่อมต่อถูกต้องกับอุปกรณ์ทั้งสอง

2. หากตัวเลือก DisplayPort สามารถเลือกได้แต่ไม่มีสัญญาณปรากฏบนหน้าจอ
    ให้ถอดสายแล้วเสียบเข้าไปใหม่เพื่อให้หน้าจอตรวจพบการเชื่อมต่ออีกครั้ง

3. หากปัญหายังคงอยู่ ลองเชื่อมต่อหน้าจอโดยใช้ HDMI เพื่อยืนยันว่าหน้าจอทำงานได้ถูกต้อง
    แล้วลองเชื่อมต่อผ่าน DisplayPort อีกครั้ง

4. ตรวจสอบว่าได้อัปเดตไดรเวอร์การ์ดกราฟิกและเวอร์ชัน BIOS ของเมนบอร์ดล่าสุดแล้ว
    หากไม่สามารถอัปเดตไดรเวอร์ขณะเชื่อมต่อผ่าน DisplayPort เนื่องจากไม่มีสัญญาณ
    ให้สลับการเชื่อมต่อเป็น HDMI ถ้าเป็นไปได้

5. หากเป็นไปได้ ลองทดสอบหน้าจอกับอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างที่ใช้ DisplayPort และตรวจสอบ
    ว่าอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งแสดงสัญญาณ การลองใช้สาย DisplayPort หลายสายและ
    การทดสอบสายกับอุปกรณ์อื่นก็อาจช่วยได้

6. หากปัญหาเกิดขึ้นทันทีหลังจากการใช้งาน DisplayPort ปกติ ให้ใช้ HDMI เพื่อ
    ตรวจสอบว่า DisplayPort ถูกตั้งค่าให้มีความละเอียดและอัตราการรีเฟรชที่หน้าจอรองรับ

หากไม่มีขั้นตอนใดข้างต้นแก้ปัญหาได้ หน้าจออาจต้องการการตรวจสอบ โปรดติดต่อทีมบริการลูกค้าของเราสำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

การตั้งค่าความละเอียด/การรีเฟรชที่กำหนดเองอาจสร้างความเสียหายให้กับมอนิเตอร์ของคุณ เนื่องจากนอกขอบเขตการทำงานที่ออกแบบมาสำหรับหน้าจอ และด้วยเหตุนี้ มันอาจทำให้มอนิเตอร์ของคุณหลุดจากการรับประกันตามมา

A. รุ่นที่มี 144, 165Hz:

1) สำหรับรุ่นใหม่ที่มีเฉพาะพอร์ต HDMI / DP กรุณาใช้สาย HDMI 1.4 / 2.0 หรือสาย DP 1.2a ที่มาพร้อมกับจอ

2) สำหรับรุ่นเก่าที่มีพอร์ต DVI / DP กรุณาใช้สาย DVI-Dual Link หรือสาย DP 1.2a ที่มาพร้อมกับจอ

3) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อัพเดตไดร์เวอร์การ์ดจอเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว

 

B. รุ่นที่มี 240Hz:

1) ให้แน่ใจว่าใช้สาย HDMI 2.0 หรือ DP 1.2a

2) หากใช้สาย HDMI 2.0 ให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI 2.0 ที่ถูกต้อง

3) หากใช้สาย DP 1.2a ให้แน่ใจว่าใช้สายที่มีมากับ BenQ

4) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อัพเดตไดร์เวอร์การ์ดจอเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว

5) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ดจอของคุณรองรับ 240Hz

 

C. รุ่นที่มี 360Hz:

1) ให้แน่ใจว่าใช้สาย DP 1.4 ที่มาพร้อมกับจอ

2) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อัพเดตไดร์เวอร์การ์ดจอเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว

3) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ดจอของคุณรองรับ 360Hz

 

หากคุณใช้งาน Win 10 ให้ทำตามนี้: ตั้งค่า > ระบบ > แสดงผล > การตั้งค่าแสดงผลขั้นสูง > คุณสมบัติอะแดปเตอร์จอแสดงผล จากนั้นคลิกแท็บ "จอภาพ" เลือกความละเอียดที่คุณต้องการและอัตราการรีเฟรช 144/165/240/360Hz จากรายการ "อัตราการรีเฟรชจอภาพ" และคลิก "ตกลง"

หากคุณใช้งาน Win 11 ให้ทำตามนี้: ตั้งค่า > ระบบ > แสดงผล > แสดงผลขั้นสูง > ข้อมูลการแสดงผล > เลือกอัตราการรีเฟรช จากนั้นเลือกอัตราการรีเฟรช 144/165/240/360Hz

หรือคุณสามารถตั้งค่าผ่านแผงควบคุม GPU;

หากเป็น GPU NVIDIA โปรดเปิดแผงควบคุม NVIDIA แล้วไปที่แท็บ "เปลี่ยนความละเอียด" ภายใต้ตัวเลือก "การแสดงผล" แล้วเลือกความละเอียดที่คุณต้องการภายใต้ "PC (ไม่ใช่ Ultra HD, HD, SD)" และเลือก "144/165/240/360Hz" ภายใต้ตัวเลือก "อัตราการรีเฟรช"